PRM เสริมแกร่งธุรกิจให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเหลว ลุยรับเรือใหม่เพิ่ม 1 ลำ หนุนศักยภาพการดำเนินงาน รับแผนขยายฐานลูกค้าต่างประเทศ
ย้อนกลับ22 สิงหาคม 2561

บมจ.พริมา มารีน ("PRM") เสริมศักยภาพธุรกิจ รุกตลาดขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเหลว ลุยรับเรือใหม่เพิ่มอีก 1 ลำ ระวางบรรทุก 3,500 DWT จากประเทศเกาหลี ดีเดย์พร้อมให้บริการได้ทันทีช่วงปลายไตรมาส 3 นี้ รองรับแผนขยายเส้นทางการให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเหลวให้แก่ลูกค้าในเส้นทางต่างประเทศ คาดการณ์ทำสัดส่วนรายได้ 10-15% ของกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งขนาดเล็ก

นายชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์น้ำมันกึ่งสำเร็จรูปและปิโตรเคมีเหลวทางเรืออย่างครบวงจรซึ่งเป็นรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย รวมถึงให้บริการเรือขนส่งที่สนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล และการบริหารจัดการกองเรือของอุตสาหกรรมน้ำมันและปิโตรเคมี เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า บริษัทฯ มองเห็นโอกาสเติบโตของกลุ่มธุรกิจให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเหลว (เคมี) ภายในประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตเพิ่มขึ้น หลังจากภาครัฐมีนโยบายผลักดันระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยดึงภาคเอกชนของไทยและต่างประเทศเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้ขยายกองเรือขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเหลวเพิ่มขึ้น ล่าสุด PRM ได้รับเรือ ‘สิริพิพัฒน์’ เพื่อนำมาให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเหลว (เคมี) ขนาดระวางบรรทุก 3,500 DWT ที่พร้อมจะให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าบริษัทค้าน้ำมันรายใหญ่ภายในประเทศได้ภายในช่วงปลายไตรมาส 3 ส่งผลให้ปัจจุบัน PRM มีเรือขนส่งผลิตภัณฑ์ ปิโตรเคมีเหลวทั้งหมด 2 ลำ ระวางบรรทุกรวม 10,647 DWT

"การขยายกองเรือขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเหลวครั้งนี้ จะเพิ่มศักยภาพการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจให้เข้มแข็งขึ้น เนื่องจากเรามีแผนขยายตลาดการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเหลวจากเส้นทางภูมิภาคไปยังเส้นทางต่างประเทศในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเหลวให้เพิ่มขึ้น โดยปีนี้คาดว่าจะทำสัดส่วนรายได้ 10-15% ของกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งขนาดเล็ก" นายชาญวิทย์ กล่าว