‘พริมา มารีน' โชว์ผลงานไตรมาส 1/62 สุดฮอต ทำกำไรสุทธิ 240.5 ล้านบาท รับทุกกลุ่มธุรกิจเติบโตพุ่ง
ย้อนกลับ13 พฤษภาคม 2562

‘บมจ. พริมา มารีน’ หรือ (“PRM”) โชว์ผลงานไตรมาส 1/62 ท็อปฟอร์ม ทุกกลุ่มธุรกิจเติบโตร้อนแรง ทำรายได้รวม 1,188.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.7% ขณะที่กำไรสุทธิพุ่ง 240.5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา หลังธุรกิจเรือขนส่งในประเทศและธุรกิจเรือ Offshore ทำผลงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดไตรมาส 2/62 ผลงานวิ่งฉิว หลังรับเรือใหม่ในธุรกิจขนส่งในประเทศอีก 4 ลำ และเรือในธุรกิจ FSU อีก 2 ลำ มั่นใจทั้งปีเติบโตตามเป้าหมาย

นายชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) (“PRM”) ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีเหลวทางเรืออย่างครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/62 (มกราคม-มีนาคม) บริษัทฯ ทำกำไรสุทธิ 240.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำกำไรสุทธิ 146.8 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมทำได้ 1,188.7 ล้านบาท เติบโต 16.7% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 1,018.5 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากการรับรู้รายได้ที่มากขึ้นเท่าตัวในธุรกิจเรือขนส่งฯ ภายในประเทศ และความต้องการใช้บริการเรือที่พักอาศัยเกือบทั้งไตรมาส 1/62 รวมถึงมีอัตราการใช้บริการเรือ FSU อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งฯ ในประเทศ เป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการรับรู้ผลการดำเนินงานของ Big Sea ซึ่งเข้ามาช่วยสนับสนุนความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจดังกล่าว นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจเรือขนส่งที่ให้การสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล หรือธุรกิจ Offshore ได้รับประโยชน์จากการประมูลสัมปทานแหล่งขุดเจาะน้ำมันที่มีความชัดเจนมากขึ้น โดยมีความต้องการใช้เรือที่พักอาศัยเกือบทั้งไตรมาส 1/62 และมีอัตราค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอีกด้วย

ธุรกิจเรือ FSU หรือธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บสินค้าแบบลอยน้ำ ก็มีอัตราการใช้บริกาโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจนเต็ม100% ซึ่งมาจากปัจจัยความต้องการของลูกค้าในการเก็บน้ำมันเตากำมะถันต่ำเพื่อรองรับกฎ IMO2020 ที่จะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า ทำให้มีความต้องการใช้เรือกลุ่มนี้เพิ่มสูงขึ้น

ส่วนกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งฯ ระหว่างประเทศนั้น พบว่ามีอัตราการเติบโตที่ดีในแง่อัตราค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีการปรับเปลี่ยนสัญญาการให้บริการให้สอดคล้องกับภาวะตลาดหลังจากอัตราค่าบริการระวางเรือมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น “ผลงานของเราในไตรมาส 1/62 เป็นที่น่าพอใจมากทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ ซึ่งมาจากความสำเร็จจากการบริหารจัดการกองเรือที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเก็บเกี่ยวรายได้จากการดำเนินธุรกิจให้สูงที่สุด มั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีแห่งการเติบโตของ PRM อย่างแน่นอน” นายชาญวิทย์ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PRM กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าบริษัทฯ จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตที่ดีได้ในทุกไตรมาส หลังจาก PRM มีแผนเดินหน้าธุรกิจด้วยการขยายกองเรือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 2/2562 PRM จะรับเรือใหม่ในกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งฯ ในประเทศเพิ่มเติมอีก 4 ลำ จากเดิมที่รับมาแล้ว 2 ลำในไตรมาสก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ FSU ที่จะรับเรือเข้ามาอีก 2 ลำ รวมเป็น 7 ลำ ที่จะเข้ามาสนับสนุนการดำเนินงานและผลักดันรายได้ของ PRM อย่างแข็งแกร่ง จึงมั่นใจว่าภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีนี้จะสามารถผลักดันการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้